จบปัญหาของแพง ทรายแมวขึ้นราคา

โอ๊ย……โอย ข้าวยากหมากแพง น้ำมันขึ้นราคา ค่าส่งก็สูงลิบ ทาสแมวในยุคป่วยแล้วต้องกักตัวหาเงินยากขึ้นทุกวัน อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องยอมลด ละ เลิกซื้อไปก่อน แต่ สำหรับสิ่งที่จำเป็นจริงๆก็ต้องหาสิ่งที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ยิ่งทาสแมวอย่างเราๆด้วยแล้ว ยิ่งต้องปรับแผนเพื่อให้ เราและเจ้าเหมียวผ่านพ้นจุดนี้ไปให้ได้ 

แคทเพอรี่มีวิธี ประหยัดเงินและจัดสรร มานำเสนอพี่ทาสทั้งหลายค่ะ

จบปัญหาของแพง ทรายแมวขึ้นราคา

1 เราต้องลิสค่าใช้จ่าย รายเดือนออกมา ทั้งของเจ้าเหมียวและของเราเอง เพื่อตัดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นออก 

จบปัญหาของแพง ทรายแมวขึ้นราคา

2 ตรวจสอบความคุ้มค่าต่างๆ ก่อนการซื้อ คำนวนเงินที่ต้องจ่ายเทียบกับอายุการใช้งาน เช่น ทรายแมว 300 บาท ใช้ได้นาน 1 เดือน กับ ทรายแมว ถุงละ 90 แต่ต้องใช้เดือนละ 4 ถุง เทียบแบบนี้แล้วเราจะได้เห็นว่า แบบไหนถ้านำมาใช่จะประหยัดกว่ากัน 

3 ประหยัดการใช้ถึงแม้จะเป็นจุดเล็กๆน้อยๆ เช่น เลือกใช้ทรายแมวธรรมชาติ ที่กำจัด แบบทิ้งชักโครกหรือ ฝังดินได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเปิดถุงขยะใหม่ หรือ การ reuse ใช้ถุงพลาสติกที่ได้มาจากร้านค้าอื่นๆ

จบปัญหาของแพง ทรายแมวขึ้นราคา

4 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยในการประหยัดเงินระยะยาว เช่น เลือกใช้หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟลงได้ หรือ การเลือกใช้ ทรายแมวไม้สน กับกระบะทรายแมวแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยยืดอายุทรายแมวสามารถใช้ได้นานขึ้น 

จบปัญหาของแพง ทรายแมวขึ้นราคา

5 จัดสรรเงินเก็บ เผื่อกรณีฉุกเฉิน เก็บมากเก็บน้อยก็ขอให้ได้เก็บ เพราะ เมื่อเวลาฉุกเฉินต้องใช้ จะได้ไม่ต้องไปกู้ยืมให้เกิดดอกเบี้ย 

จบปัญหาของแพง ทรายแมวขึ้นราคา

6 พักผ่อนอยู่บ้านเล่นกับแมว แทนการออกไปข้างนอก เพราะการเล่นกับเจ้าเหมียวที่บ้านของเราเองทำให้เราผ่อนคลายและไม่เสียเงินเพิ่ม จาก ค่าเดินทาง ค่ากาแฟ ค่าบุฟเฟ่ แต่ก็ต้องเลี่ยงเปิดแอฟช๊อปปิ้งด้วยนะคะ

7 นำสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว ไปบริจาคหรือเปลี่ยนเป็นของใช้อื่นๆ เช่น กระบะทรายแมวเก่าที่สภาพดีบริจาคให้แมวจรในสถานรับเลี้ยง หรือ  หากสภาพไม่ดีแล้ว อาจจะนำไปทำเป็นกระถางปลูกต้นไม้ สร้างความร่มรื่นให้บ้าน หรือจะเป็น การนำเสื้อผ้าไม่ใช้แมวมาทำเป็น ผ้าขี้ริ้ว ไม่ต้องไปซื้อผ้าใหม่มาใช้ เป็นต้น

บางครั้งดีเทลเล็กๆเหล่านี้ก็ทำให้เราเซฟเงินได้มากในแต่ละเดือนนะคะ ปัญหาน้ำมันแพง ข้าวของแพงขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ของใช้เจ้าเหมียว จะรอให้คนอื่นมาแก้คงต้องรอไปเลยถึงชาติหน้า เรามาเริ่มแก้ที่ตัวเราเองก่อน ดีกว่าค่ะ ปรับการใช้ เน้นความคุ้มค่า มองถึงความประหยัดระยะยาว และ ดีเทลเล็กในการใช้จ่าย เพียงเท่านี้ ก็เซฟไปได้เยอะแล้ว แคทเพอรี่ขอให้พวกเราทุกคนเข้มแข็ง และผ่านจุดยากลำบากนี้ไปให้ได้เร็วๆนะคะ 

Leave a Reply